5 ค่าพารามิเตอร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์คุณภาพน้ำ
- Admin PATA Chemicals
- 21 ต.ค.
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 20 ชั่วโมงที่ผ่านมา
“ค่าพารามิเตอร์” คือ ตัวชี้วัดที่ใช้ประเมินคุณภาพของน้ำเสียและน้ำทิ้งจากแหล่งต่าง ๆ มีบทบาทสำคัญในการควบคุมและบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยสู่สิ่งแวดล้อม เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำที่ระบายออกไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและสุขภาพของมนุษย์

1. pH (ค่าความเป็นกรด–ด่าง)
ค่า pH เป็นตัวบ่งบอกความเป็นกรดหรือด่างของน้ำ โดยมีค่าตั้งแต่ 0–14
ค่า pH = 7 คือค่ากลาง
ค่า pH < 7 หมายถึงน้ำมีความเป็นกรด
ค่า pH > 7 หมายถึงน้ำมีความเป็นด่าง
โดยทั่วไป น้ำดื่มที่เหมาะสมควรมีค่า pH อยู่ระหว่าง 6.8–7.3 ส่วนในโรงงานอุตสาหกรรม มักพบว่าค่า pH ต่ำกว่า 4.5 ซึ่งแสดงถึงความเป็นกรดสูงและมีฤทธิ์กัดกร่อน
2. BOD (Biochemical Oxygen Demand)
คือ ปริมาณออกซิเจนที่จุลินทรีย์ใช้ในการย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสีย มีหน่วยเป็นมิลลิกรัมต่อลิตร (mg/L) หากค่า BOD สูง แสดงว่าน้ำมีสารอินทรีย์มากหรือน้ำมีความสกปรกสูง
3. COD (Chemical Oxygen Demand)
คือ ปริมาณออกซิเจนที่ใช้ในกระบวนการเคมีย่อยสลายสารอินทรีย์ มีหน่วยเป็น มิลลิกรัมต่อลิตร (mg/L) โดยทั่วไป ค่า COD จะสูงกว่าค่า BOD เสมอ ดังนั้น ค่า COD จึงถือเป็นตัวแปรสำคัญที่ใช้บ่งบอกระดับความสกปรกของน้ำเสีย
4. DO (Dissolved Oxygen)
คือ ปริมาณออกซิเจนที่ละลายอยู่ในน้ำ ใช้ในการประเมินคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ น้ำที่มีคุณภาพดีจะมีค่า DO อยู่ระหว่าง 5–8 ppm ส่วนน้ำเสียมักมีค่า DO ต่ำกว่า 3 ppm ซึ่งบ่งบอกถึงการขาดออกซิเจนและอาจเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ
5. TDS (Total Dissolved Solids)
คือ ปริมาณของแข็งทั้งหมดที่ละลายอยู่ในน้ำ เช่น โลหะ แร่ธาตุ เกลือ หรือไอออนต่าง ๆ TDS เป็นตัวชี้วัดถึงการปนเปื้อนของสารเคมีและคุณภาพโดยรวมของน้ำ มาตรฐานน้ำดื่มกำหนดค่า TDS ไม่เกิน 500 มิลลิกรัมต่อลิตร (ppm)
ความสำคัญของการบำบัดน้ำเสีย
น้ำเสียไม่ได้เพียงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การปนเปื้อนในแหล่งน้ำหรือการทำลายระบบนิเวศเท่านั้น แต่ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ ทั้งจากสารพิษ โลหะหนัก และเชื้อโรคที่ปะปนอยู่ในน้ำ หากไม่มีการบำบัดอย่างเหมาะสม สารเหล่านี้อาจไหลเข้าสู่แหล่งน้ำธรรมชาติและห่วงโซ่อาหารได้
📩 พร้อมยกระดับการดูแลเครื่องจักรของคุณแล้วหรือยัง?
คลิกที่นี่เพื่อสอบถามหรือขอใบเสนอราคา









ความคิดเห็น